Netherlands: Zaanse Schans

วันก่อนเดินๆ ไปในเมืองเห็นที่ร้าน Kruidvat ขายตั๋วรถไฟแบบ ตั๋ววัน ในราคา 12.49 ยูโร ก็เลยแวะซื้อมาซะหลายใบ แต่เงื่อนไขของการใช้ตั๋วนี้ก็คือ อย่าลืมปั๊มบัตรก่อนขึ้นรถไฟ และใช้ได้เฉพาะเสาร์อาทิตย์เท่านั้น ที่ต้องรีบซื้อเพราะว่าการเดินทางโดยรถไฟในเนเธอแลนด์นี้ค่อนข้างที่จะราคาแพง ดังนั้นเมื่อเจอตั๋วถูกเลยต้องรีบๆ เพราะกลัวขายหมดซะก่อน

พอมีตั๋วอยู่ในมือก็สบายใจ จากนั้นก็ชักชวนพี่พี่ น้องๆ ไปเที่ยวด้วยกัน เป้าหมายของเราในวันนี้ก็คือเดินทางจากเมือง Groningen เพื่อไปเที่ยว Zaanse Schans (ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับ Amsterdam) แต่ผมต้องนั่งรถไฟเพื่อมาเที่ยวที่นี่ประมาณ 3 ชม. ครับ แต่ก็เริ่มๆ ชินกับการนั่งรถไฟเป็นเวลานานๆ แล้วครับ

การมาที่ Zaanse Schans ให้นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Koog-Zaandijk นะครับ ซึ่งถ้ามาจาก Amsterdam ก็นั่งรถไฟไม่เกิน 25 นาทีครับ พอถึงสถานีก็เดินอีกประมาณ 600 เมตร ก็ถึง Zaanse Schans แล้วครับ



พอมาถึงสถานี Koog-Zaandijk ผมก็กวาดสายตาไปเจอกับป้ายคำว่า Free map หรือแผนที่ฟรีนั่นเอง เขาเขียนว่ามีแผนที่ฟรีอยู่ที่ร้านขายของ (ขายอยู่ในสถานี) ผมก็รีบเดินเข้าไปถามเขาเลยว่ามีแผนที่ฟรีไหม เขาก็ตอบมาเลยว่ามี แต่ต้องซื้อของที่ร้านเขาก่อน แล้วเขาจะให้แผนที่ ผมก็จัดการซื้อน้ำซักขวด เพราะตอนนั้นคอแห้งพอดี จากนั้นก็จ่ายเงินพร้อมกับรับแผนที่ (สิ่งที่เราต้องการมากที่สุด ณ เวลานั้น) เมื่อได้แผนที่แล้วเราก็มุ่งหน้าไปที่ Zaanse Schans ทันที พอออกมานอกสถานีเท่านั้น ผมก็สังเกตอีกแล้วครับ สังเกตเห็นตู้ information ที่เขาแจกแผนที่ฟรีนั่นเอง โอ้ โอ้ โอ้ โอ้ ไม่รู้จะอธิบายยังไง แสดงว่าร้านนั้นเขาก็มาเอาแผนที่จากตู้นี้แล้วก็เอาไปเป็นโปรโมชั่นของร้าน ฉลาดจริงๆ คิดกลยุทธ์การตลาดได้แยบยลมาก แต่จะมัวแต่มาเสียใจก็ไม่ได้ เพราะยังไงเราก็ต้องเสียเงินซื้อน้ำอยู่แล้ว หุหุ

เมื่อเดินมาได้ซักระยะหนึ่งเราก็สังเกตเห็นกังหันลมแบบเก่าที่คนที่นี่เรียกกันว่า Molen หรือ Windmill ในภาษาอังกฤษ ที่ใบพัดของกังหันลมยังหมุน ติ้วๆๆๆ อยู่ ดีใจมาก เพราะไม่ค่อยเห็นกังหันลมที่ใบพัดยังทำงานอยู่ซักเท่าไหร่ จากนั้นเราก็เดินข้ามสะพานเราก็แวะถ่ายรูปตรงกลางสะพาน เพราะว่าวิวที่เราเห็นในตอนนั้นเป็นวิวแม่น้ำที่มีบ้านสวยงามเรียงรายอยู่รอบแม่น้ำ และทุกบ้านก็จะมีท่าเรือส่วนตัวเอาไว้จอดเรือ หรือเรือยอร์ช และก็มองไปยังอีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำผมก็เห็นกังหันลมวางเรียงรายอยู่อย่างสวยงาม



เมื่อถ่ายรูปเสร็จสรรพ์เราก็เดินข้ามสะพานแล้วก็เลี้ยวไปยัง Zaanse Schans ถึงกันซักทีหลังจากใช้เวลาถ่ายรูปกันอย่างยาวนาน พอเข้าไปในเขต Zaanse Schans รู้สึกว่าเขาอนุรักษ์บ้านเก่าๆ ได้เป็นอย่างดี และมีการพัฒนาพื้นที่ได้อย่างสวยงามและลงตัวเป็นอย่างมาก ในพื้นที่นั้นก็มีทั้งซุปเปอร์มาเก็ต (ah) ร้านอาหาร โรงแรม ร้านขายของฝาก ร้านขายชีส พิพิธภัณฑ์ ร้านทำรองเท้าไม้ (ที่นี่เรียกรองเท้าไม้ว่า Clog)  ถ้าต้องการข้อมูลก็สามารถเข้าไปดูได้ที่  www.zaanseschans.nl ครับ

และก็เพิ่งรู้วันนี้นี่เองว่า คำว่า Moulin ที่จริงแล้วก็คือ Molen หรือ Windmill นั่นเองครับ มิน่าหละที่ Moulin Rouge ถึงมีกังหันลมสีแดง

เมืองนี้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวครับ ผมดูจากในแผนที่ที่เขาแจกมา ตอนแรกก็นึกว่าทำไมมีข้อมูลเยอะมาก แต่พอสังเกตดูดีดีแล้วปรากฏว่า เขาพิมพ์ข้อมูลต่างๆ ทั้งหมด 9 ภาษาด้วยกันครับ





Unknown

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น